SFP อุปกรณ์เชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์เน็ตเวิร์คโดยใช้แสงไฟเบอร์ออฟติกเป็นสายสำหรับส่งถ่ายสัญญาณข้อมูล ด้วยแสง SFP ทำหน้าที่แปลงสัญญาณแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้า โดยเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เน็ตเวิร์ที่มีช่องเสียบ SFP

ความแตกต่างระหว่าง SFP และ BIDI SFP

อย่างที่เราเข้าใจและนำไปใช้งานกันทั่วๆไปที่ว่า SFP ต้องมี 2 พอร์ทสำหรับใช้เชื่อมต่อ SFP คือ TX และ RX โดยอุปกรณ์ต้องรองรับช่วงความยาวคลื่นแสงเดียวกัน แต่ปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยใช้วิธีการผสมช่วงความยาวคลื่นแสงลงในสายนำสัญยาณแสงไฟเบอร์ออฟติก โดยจะต้องใช้ตัว SFP ที่มีความยาวคลื่นไม่เหมือนกันสำหรับการใช้งาน เช่น TX1310/RX1550 และ TX1550/RX1310 ในการจับคู่ใช้งาน ข้อดีของการใช้งาน SFP แบบ BIDI คือทำให้เราประหยัดต้นทุนสำหรับสายไฟเบอร์ออฟติก โดยจะใช้สายนำสัญญาณแสง เพียง 1 เส้นเท่านั้น

ทำไมต้องใช้ BiDi SFP?

(1) โมดูล BiDi SFP รวมการเชื่อมโยงข้อมูลแบบสองทางผ่านใยแก้วนำแสงเพียงเส้นเดียว ปรกติ โมดูล SFP มีสองพอร์ตสำหรับใช้ส่งข้อมูล (TX และ RX) แต่ BiDi SFP transceiver มีเพียงหนึ่งพอร์ตในการส่งและรับข้อมูลแสงความยาวคลื่นที่แยกต่างกัน
(2) เมื่อใช้ตัวรับส่งข้อมูล BiDi SFP ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของสายเคเบิลไฟเบอร์จะลดลงด้วยการลดเส้นใยไฟเบอร์ลงครึ่งหนึ่งจำนวนสายแพทช์และแผงแผงวงจรสามารถลดลงได้
(3) การทำงานร่วมกับโมดูลออปติคัล BiDi SFP ความสามารถและความน่าเชื่อถือจะเพิ่มขึ้นโดยการทำงานพร้อมกันที่ความยาวคลื่นมากกว่าหนึ่งความยาวเพื่อส่งและรับบนสายเดี่ยว
(4)โมดูลแสงBiDi SFP รองรับระยะการส่งข้อมูลสูงสุด 120 กม.